Dr.Lee&Dr.Albert Billberry Plus 60 Caps
Bilberry Lutein taurine บิลเบอร์รี่ ลูทีน ทอรีน
ความพิเศษสำหรับดวงตาคุณ ช่วยสร้างภาพคมชัด บำรุงสุขภาพของจอรับภาพ และช่วยให้หลอดเลือดฝอยในตาแข็งแรง
Bilberry บิลเบอร์รี่
บิลเบอร์รี่ ( Vaccinium myrtillus ) มีคุณค่าทางอาหารสูง สารอาหารที่อยู่ในบิลเบอร์รี่ คือ “ แอนโธไซยานิน ”
แอนโธไซยานินมีคุณสมบัติช่วยปกป้องเซลล์จากการทำลายของอนุมูลอิสระ กระตุ้นการผลิตโรดอปซิน ( สารสีที่ช่วยตาปรับการมองเห็นเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของแสง ) ทำให้ผนังหลอดเลือด โดยเฉพาะหลอดเลือดเล็กๆที่บริเวณดวงตาแข็งแรง เพิ่มการไหลเวียนเลือดของหลอดเลือดทุกระบบทั่วร่างกาย อีกทั้งยังทำให้คอลลาเจนแข็งแรงขึ้น
นอกจากนี้ในบิลเบอร์รี่ยังมีสาร “ แทนนิน ” ที่ช่วยลดอาการอักเสบ และฝาดสมานอีกด้วย
บิลเบอร์รี่จะช่วยต่อต้านกับความเครียดที่เกิดขึ้นที่บริเวณดวงตา ลดอาการบวมหรืออักเสบ และเพิ่มการไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงที่ดวงตา
เนื่องจากบิลเบอร์รี่จะช่วยจะช่วยกรพตุ้นการผลิตโรดอปซิน ดังนั้น การรับประทานบิลเบอร์รี่จะส่งผลให้ความคมชัดในการมองเห็นในที่มืดดีขึ้น และตาปรับความคมชัดในการมองเห็นเมื่อตาโดนแสงจ้าได้เร็วขึ้นด้วย
แร่ธาตุโครเมียมที่มีอยู่ในบิลเบอร์รี่จะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และช่วยป้องกันเบาหวานขึ้นตา นอกจากนี้สารแทนนินที่อยู่ในบิลเบอร์รี่ยังช่วยเร่งการสมานแผลที่หายยากในผู้ที่เป็นเบาหวานได้
การศึกษาในผู้ป่วยชาวอิตาลีที่เป็นโรคต้อกระจกระยะแรกจำนวน 50 คน พบว่าการรับประทานบิลเบอร์รี่ร่วมกับวิตามินอีจะช่วยหยุดยั้งความเสื่อมของโรคได้ถึง 97%
บิลเบอร์รี่เพิ่มความยืดหยุ่นของหลอดเลือด ทำให้มีการลำเลียงเลือดและออกซิเจนไปเลี้ยงดวงตาให้ดีขึ้น
Lutein
ลูทีน เป็นสารกลุ่มแคโรทีนอยด์ที่ได้มาจากดอก Marigold มีกลไกที่สำคัญ 3 ประการ คือ
การรับประทานลูทีนจะทำให้ร่างกายได้รับสารซีแซนทีนซึ่งเป็นเป็นสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพของสายตาไปด้วยพร้อมกัน เนื่องจากร่างกายของเราจะเปลี่ยนลูทีนบางส่วนไปเปซีแซนทีนในปริมาณที่เหมาะสมกับความต้องการของร่างกาย ดังนั้นถ้าเรารับประทานลูทีนอย่างเพียงพอ จะไม่ต้องกังวลว่าร่างกายจะขากซีแซนทีน
ลูทีนกับซีแซนทีนจะช่วยการสร้างเม็ดสีในดวงตา ซึ่งเรตินาจะอาศัยเม็ดสีเหล่านี้ในการสร้างภาพที่คมชัด
การศึกษาทางระบาดวิทยาพบว่า การรับประทานลูทีนช่วยป้องกันและชะลอความเสื่อมของโรคจอประสาทตาเสื่อม ( age-related macular degeneration : AMD ) โรคต้อกระจก ( cataracts ) และโรคเซลล์รับแสงในตาเสื่อมสภาพ ( retinitis pigmentosa ) ได้
นอกจากนี้ยังพบว่า ลูทีนมีบทบาทในโรคเรื้อรังหลายๆโรค เช่น โรคหัวใจ โรคที่เกิดจากเซลล์ผิดปกติที่เต้านม ลำไส้ใหญ่ ผิวหนัง ปากมดลูก และรังไข่
Taurine
ทอรีนเป็นกรดอะมิโนจำเป็นในบางสภาวะ และพบมากในเรติน่า แต่ทอรีนมีความพิเศษอยู่ตรงที่ไม่ได้ถูกนำมาสร้างเป็นโปรตีนเหมือนเช่นกรดอะมิโนชนิดอื่นๆ ทอรีนมีส่วนช่วยในกระบวนการต่างๆของร่างกาย เช่น การทำงานของกรดน้ำดี การขจัดสารแปลกปลอม การรักษาสมดุลสารน้ำในร่างกาย และควบคุมการทำงานของระบบประสาท ระดับทอรีนที่ต่ำจะเกี่ยวข้องกับการเกิดภาวะผิดปกติของจอประสาทตา การเจริญเติบโตช้า และโรคกล้ามเนื้อหัวใจ
ทอรีนมีบทบาทสำคัญต่อเรตินาของดวงตา มีการทดลองว่าการขาดทอรีนในแมวแสดงให้เห็นว่าเป็นสาเหตุทำให้เกิดการทำลายเซลล์ตัวรับภาพรูปทรงกรวย ( cone photoreceptor cell ) และ เรติน่าเสื่อมอย่างถาวร ( retinal degeneration ) ความผิดปกติของเมตาบอลิซึมของทอรีนมีความเป็นไปได้ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับโรคเซลล์รับแสงเสื่อมสภาพ ( retinitis pigmentosa )
ทำให้เยื่อหุ้มเซลล์ และความเข้มข้นของแคลเซียมไอออนในเซลล์คงสภาพ และทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระโดยจับกับอนุมูลอิสระที่ไปทำลายเซลล์ต่างๆ
ช่วยให้การมองเห็นในที่มืดได้ดีขึ้น ช่วยขจัดซากสิ่งสกปรกในดวงตาและเป็นสารอาหารสำคัญที่ทำงานร่วมกับลูทีน ช่วยป้องกันไม่ให้แสงไปทำลายเรติน่า
วิธีรับประทาน
รับประทานวันละ 1 แคปซูล
ผู้ที่ควรรับประทานบิลเบอร์รี่ ลูทีน และทอรีน
10.ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับดวงตา และการมองเห็น
เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว แจ้งชำระเงินผ่านหน้าเวป ช่องทางเดียวนะคะ ขอบคุณค่ะ
หน้าที่เข้าชม | 985,734 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 540,844 ครั้ง |
เปิดร้าน | 22 มิ.ย. 2555 |
ร้านค้าอัพเดท | 8 ก.ย. 2568 |