ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทผักเม็ด Bio Veggie ได้รวบรวมและคัดสรรผักสดที่มีคุณค่าทางอาหารสูงสุดของพืชผักชนิดต่างๆ ผ่านกระบวนการผลิตโดยใช้เทคโนโลยีทางวิศวกรรมและวิทยาศาสตร์การอาหาร สามารถถนอมรักษาสารอาหารที่ได้จากธรรมชาติที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายให้คงอยู่ในรูปของผักอัดเม็ด Bio Veggie นี้ได้ ซึ่งสะดวกต่อการบริโภคและมีคุณค่าทางอาหารสูงสุด ดังแสดงไว้ในผลลัพธ์การวิเคราะห์ข้างกล่องบรรจุภัณฑ์

อย.เลขที่ 74-1-02054-1-0004

ส่วนประกอบของผักเม็ด Bio Veggie 

ประกอบด้วยผักชนิดต่างๆ ถึง 12 ชนิด ได้แก่

ผักอัดเม็ดโครงการหลวง Bioveggie มีประโยชน์อย่างไร?
    ผักอัดเม็ดมีวิตามิน A,B1,B2,B6,C,K และ E และยังมีแร่ธาตุต่างๆ เช่น โซเดียม แคลเซียม เหล็ก แมกนีเซียม เบต้าแคโรทีน ซีแซนทีน ลูทีน กากใยไฟเบอร์ และยังสามารถลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและความดันโลหิตได้อีกด้วย ดูประโยชน์ของวิตามินและ
    แร่ธาตุต่างๆได้จาก >> ประโยชน์ของวิตามินและแร่ธาตุที่มีใน ผักอัดเม็ด Bioveggie <<
    มีความปลอดภัยและได้รับมาตรฐาน GAP,GMP,Halal,อย. และยังได้รับเกียรติบัตรจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติอีกด้วย ดูรายละเอียดได้จาก
    >> มาตรฐานการผลิตของผักอัดเม็ด BioVeggie <<

ความแตกต่างระหว่างผักอัดเม็ด BioVeggie กับ วิตามินอัดเม็ด
วิตามินอัดเม็ดส่วนใหญ่จะทำออกมาในลักษณะของสารสังเคราะห์ทางเคมีคัล ในขณะที่ ผักอัดเม็ด BioVeggie ทำมาจากผักสดล้วนๆ ไม่มีส่วนผสมอื่นใด จึงสามารถรับประทานได้อย่างต่อเนื่อง แต่การทานวิตามินอัดเม็ดนั้น ไม่ควรทานต่อเนื่อง เพราะถ้าร่างกายขับสารสังเคราะห์ที่เป็นเคมีออกไม่หมด จะสะสมและเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้

พิสูจน์ความเปลี่ยนแปลง  การรับประทาน BioVeggie อย่างต่อเนื่องแล้วตรวจสอบสุขภาพด้วยการสังเกตุตนเองจากการขับถ่ายที่บ่งบอกถึงสุขภาพดี การขับถ่ายทุกวันปริมาณของของเสียที่ขับถ่ายมากขึ้นกากอาหารที่ถูกย่อยได้อย่างสมบูรณ์จะมีลักษณะลอยน้ำ
 
ไฟโตนิวเตรียนท์ (Phytonutrient) คืออะไร?
ไฟโตนิวเตรียนท์ (Phytonutrient) หรือไฟโตเคมีคอล (Phytochemical) หรือเรียกอีกชื่อว่าพฤกษเคมี คือสารเคมีต่างๆที่มีอยู่ในผัก ผลไม้ เป็นสารที่ทำให้เกิด สี กลิ่น รส ในผัก ผลไม้ มีประโยชน์ต่อร่างกายในการทำหน้าที่เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งมีหลายชนิด และจะมีสีสันที่แตกต่างกันไป ลองมารู้จักพวกเขาอย่างง่ายๆ ดูประโยชน์ที่จะได้รับกัน เช่น

ชนิดสีแดง ช่วยกำจัดอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันมะเร็งชนิดต่างๆ ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ โรคปอด และโรคระบบทางเดินปัสสาวะ มีไฟโตนิวเตรียนท์ (Phytonutrient) : ไลโคพีน (Lycopene) ซึ่งมีอยู่ใน มะเขือเทศ, แตงโม, เกรฟฟรุทสีชมพู (Pink Grapefruit) เป็นต้น

ชนิดสีม่วง ช่วยลดการจับตัวกันของลิ่มเลือด ป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจและสมองอุดตัน, ช่วยในการมองเห็น ช่วยป้องกันโรคความจำเสื่อม มีไฟโตนิวเตรียนท์ (Phytonutrient) : แอนโธไซยานิน (Anthocyanins) ซึ่งอยู่ในองุ่น, บลูเบอรี่, สตรอเบอรี่, หัวบีท, มะเขือม่วง เป็นต้น

ชนิดสีส้ม ช่วยป้องกันผิวจากการทำลายของอนุมูลอิสระ และช่วยซ่อมแซมดีเอ็นเอ (DNA) ช่วยในการมองเห็นตอนกลางคืน มีไฟโตนิวเตรียนท์ (Phytonutrient) : แอลฟาและเบตาแคโรทีน เช่น แครอท, มะม่วง, แคนตาลูป, มันเทศ

ชนิดสีเหลืองส้ม ช่วยป้องกันโรคหัวใจ, ช่วยเซลล์ในร่างกายในการสื่อประสาท, ช่วยกระตุ้นภูมิต้านทาน มีไฟโตนิวเตรียนท์ (Phytonutrient) : เบตาคลิปโตแทนซิน (Beta Cryptothanxin) เช่น ส้ม, พีช, มะละกอ

ชนิดสีเหลืองเขียว ช่วยลดความเสี่ยงโรคต้อกระจก, ช่วยป้องกันหลอดเลือดหนาตัว เสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและฟัน มีไฟโตนิวเตรียนท์ (Phytonutrient): ลูทีน และ ซีแซนทีน (Lutein, Zeaxanthine) เช่น ผักขม, ข้าวโพด, อะโวคาโด, แตงฮันนีดิว

ชนิดสีเขียว ช่วยยับยั้งสารก่อมะเร็ง มีไฟโตนิวเตรียนท์ (Phytonutrient) : ซัลโฟราเฟน (Sulforaphane), ไอโซไซยาเนท (Isocyanate), อินโดล (Indoles) เช่น บรอคโคลี, กะหล่ำปลี,ผักกาดหอมฝรั่ง, บรัสเซลส์สเปราท์

ชนิดสีเขียวขาว ช่วยป้องกันมะเร็ง มีไฟโตนิวเตรียนท์ (Phytonutrient) : Quercetin, Kaempferol, Allicin เช่น กระเทียม, หอม, เซอเรอลี, ลูกแพร์